สาระน่ารู้จากคุณหมอ

             สาระน่ารู้จากหมอทหาร จะเป็นการให้ความรู้ต่าง ๆ ในการดูแลสุขภาพที่สำคัญ ๆ ของทุก ๆ ท่าน และอาจมีเรื่องเกี่ยวข้องต่าง ๆ ของหมอทหารกับศิษย์นายร้อย  ทั้งนี้หากท่านใดมีข้อเสนออยากรู้เรื่องอะไร ก็สามารถคอมเม้ท์เสนอมายังเราได้นะครับ

รู้เท่าทัน COVID - 19

สหรัฐฯ เริ่มมีแผนผ่อนคลาย ในหลายๆรัฐ และ ระวังไม่ให้มี การติดต่อระลอกที่ 2 อย.สหรัฐฯ ได้อนุมัติให้มีการตรวจเชื้อไวรัสนี้ด้วยการใช้น้ำลายวันนี้มี ผป.ทั้งโลก เกือบ 3 ล้านคน (2,826,847) ตายไปแล้วเกือบ 2 แสนคน (196,981)

ขณะนี้ ประเทศไทย มีทีมการสืบค้นที่ดีและมีประสิทธิภาพ ทำให้ ลดการแพร่กระจายของเชื้อได้ดีเยี่ยม

สถานการณ์ทั่วโลกอย่าเพิ่งไว้วางใจ การต่อสู้กับโควิดดีที่สุดขณะนี้คือป้องกันอย่างเดียว

สรุป สถานการณ์ โรค โควิด-19 ทั่วโลกวันที่ 23 เม.ย. 63

ไชโย...วันนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยใหม่เพียง 15 ราย น้อยกว่าเมื่อวานนี้อีก มีคนตายเพิ่ม 1 ราย ทำให้มี ผป.ติดเชื้อนี้ทั้งหมด 2,826 ราย ตายไปแล้วเพียง 49 คน

ข่าวเด่นวันนี้ ทั่วโลกในวันนี้ มีทั้งข่าวดีและข่าวไม่ดีปนกัน ภาพรวมการติดต่อได้ทุเลาลง มีการผ่อนคลายในประเทศและรัฐต่าง ๆ ต่างคำนึงถึงเศรษฐกิจมากขึ้น ประเทศไทย : น่าจะได้โอกาสหนึ่งด้านเศรษฐกิจ คือการผลิตถุงมือ

ในประเทศ มีการติดใหม่ 111 ราย ตายเพิ่ม 3 ราย รวมป่วยสะสม 2,369 ราย ตาย 30 ราย/ จว.ภูเก็ต พบว่ามีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก มากกว่าจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ/ รัฐบาลได้เพิ่มมาตรการต่างๆ โดย กู้เงิน 1.9 ล้าน ล้านบาทเพื่อเยียวยาผู้ที่มีผลกระทบ, เลื่อนการเปิดเทอมเป็น ก.ค., ฟรีค่าไฟฟ้า 3 เดือน, จัดหาหน้ากากอนามัยให้ประชาชนและกลุ่มผู้มีความเสี่ยง

จีนเปิดเมืองอู่ฮั่นแล้ว/ สถิติการติดเชื้อของสหรัฐฯ กำลังลดลง/ นรม.อังกฤษ นายจอนห์สัน มีอาการดีขึ้น ถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว/ สเปน สถานการณ์ดีขึ้นจากมาตรการ social distancing ที่ออกผล/ ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย กำลังมีปัญหาเรื่องการระบาดที่สูงขึ้น/ New Zealand เป็นประเทศที่มีการทำ social distancing ดีที่สุดในโลก/ ไทย มีการกู้เงิน 2 ล้านๆ บาทเพื่อแก้ภาวะเศรษฐกิจ

ผู้ป่วยในประเทศ เป็นผู้ป่วยใหม่ 38 ราย ป่วยสะสม 2,258 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 27 ราย/ การห้ามออกนอกบ้านยามค่ำคืน ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งฝ่าฝืน/ ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยเพิ่ม กำลังจะประกาศ shutdown/ สิงคโปร์ พบผู้ป่วยเพิ่ม ประกาศ shutdown/ จีน กำลังป้องกันการติดต่อจากนอกประเทศ/ เกาหลี ก็ยังมีมาตรการต่อเนื่อง/ อินเดีย น่าจับตามอง

สถานการณ์โลกในวันนี้ผู้ป่วย 1,342,228 ตาย 74,554 ราย การแพร่กระจายยังคงเป็นอัตราเร่ง ศูนย์กลางการติดต่อยังเป็นที่สหรัฐและยุโรป มีบางประเทศควบคุมได้ บางประเทศระบาดหนัก/ ในสหรัฐได้มีการเตรียมตัวเผชิญภาวะวิกฤตในสัปดาห์นี้/ ญี่ปุ่นกำลังพิจารณา Shutdown/ จีนกำลังจะเปิดเมืองฮู่หั่นในวันพุธนี้ 

การระบาดในไทยวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่มแค่ 51 ราย ตายเพิ่ม 3 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,220 ราย (น้อยกว่ามาเลเซีย ฟิลิปปินส์ พอๆ กับอินโดนีเซีย แต่มากกว่า สิงคโปร์) สาเหตุที่เพิ่มมาจาก 2 ประการคือ ติดจากผู้ป่วยเดิม และจากกลุ่มคนที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ไม่มีจากสนามมวย แต่พบจากพิธีกรรมทางศาสนาเพียง 3 ราย/ มาตรการเคอร์ฟิว ยังมีผู้ฝ่าฝืน แสดงถึงยังมีคนไร้วินัยอีกจำนวนมาก

ไวรัสนี้มีชื่อว่า SARS-Co V-2 โรคชื่อ Covid-19/ มีผู้ป่วยทั่วโลก 1,273,499 ราย ตาย 69,451 ราย การแพร่กระจายยังเป็นอัตราเร่ง เรียงตามลำดับประเทศที่ติดต่อมาก คือ สหรัฐอเมริกา สเปน อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส จีน/ จีนตกลงมาอยู่อันดับ 6 แล้ว โดนฝรั่งเศสนำ และจะเปิดเมืองฮู่หั้น ให้ประชาชนกลับทำงานสู่ภาวะปกติในวันพุธนี้/ อินเดีย ะอาจมี Super spreader ที่สลัมเมืองมุมไบ

สถานการณ์ในประเทศมีผู้ป่วยเพิ่ม 102 ราย ตายเพิ่ม 3 ราย ป่วยสะสม 2,169 ราย ตายสะสม 23 ราย/ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีผู้ป่วยใหม่ก็ยังเหมือนเดิม/ สาเหตุหลักทั้งสามนี้ถ้าแก้ได้จะทำให้มีการติดต่อลดลงอย่างสำคัญ/ พื้นที่ติดต่อมากที่สุดได้แก่ กทม.และปริมณทล เมืองท่องเที่ยว และชายแดน/ การเตรียมพร้อมรับมือผู้ป่วยใน กทม.และปริมณฑล มีเตียง 1,622เตียง ร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน

แหล่งระบาดมากที่สุดยังคงสหรัฐฯ และยุโรป จำนวนผู้ป่วยเพิ่มเป็น 2 เท่า ทุกๆ 3 วัน/ จีนได้ตกมาอยู่ในอันดับ 5 โดยที่ฝรั่งเศสได้แซงหน้าจีน/ อาเชี่ยนยังคงมีการติดเพิ่มอยู่ในระดับเดิม/ ไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 2,067 ผู้ป่วยเพิ่มใน 1 วัน 89 ตายเพิ่ม 1/ สหรัฐฯ ได้ให้ประชาชนมาสวมหน้ากาก แต่หน้ากากอนามัยไมเพียงพอ จึงแนะนำให้ใช้หน้ากากผ้า หรือนำผ้าผืนใหญ่/ เป็นเครื่องเตือนสติคนไทยด้วย

สนามบินสุวรรณภูมิ มีคนไทยกลับมาจากญี่ปุ่น การ์ต้า และสิงคโปร์ 158 คน มี 6 คนที่ยอมให้กักตัว 14 วัน ที่เหลือ 152 คนไม่ยอมให้กัหตัว ทางรัฐบาลจึงให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาเมื่อวานรีบกลับมารายงานตัวที่ท่าอาศยานสุวรรณภูมิหรือศูนย์ดำรงธรรมในจังหวัดนั้นๆ ภายใน 18:00 น.ของวันนี้ (4 เม.ย.63)/ นพ.แอนโทนี่ เฟาซี่ ได้ให้ตัวเลขว่าอาจมีคนอเมริกันตายเป็นแสนคนในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อ 1,097,810 ราย ตาย 59,140 ราย การติดต่อยังเป็นอัตราเร่ง ศูนย์กลางการติดต่ออยู่ที่สหรัฐฯ และยุโรป/ อาเซี่ยนมีการเพิ่มแบบเดิม คือไม่รวดเร็วเหมือนสหรัฐและยุโรป การต่อสู้กับไวรัสมี 2 ทาง คือ ไม่ให้คนตาย และรักษาสภาพเศรษฐกิจ/ นักวิชาการจีนได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯและจีน ร่วมมือกันมากขึ้น/ ให้ตามดูอิตาลี เพราะการติดต่อไม่เพิ่มขึ้นมาเกือบสัปดาห์แล้ว

ไทยมีการติดเพิ่ม 103 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,978 ราย ตายเพิ่ม 4 ราย รวมตายสะสม 19 ราย/ การติดต่อในภูมิภาคอาเชี่ยนใกล้เคียงกัน โดยเปรียบเทียบกับมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ส่วนสิงคโปร์ดีกว่าเรา ซึ่งของเขาเทียบกับจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่ควบคุมได้ดี/ ผู้ป่วยสะสมมีมากที่สุดใน กทม.และปริมณฑล ภาคใต้ และ เชียงใหม่/ ต้องเพิ่มมาตรการให้มีผู้ป่วยแพร่กระจายน้อยลงโดยแก้ตามเหตุ

การแพร่ระบาด 4 เดือน มีผู้ป่วยเกิน 1 ล้านคนแล้ว (1,013,748 ราย) และเสียชีวิต 52,977 ราย การระบาดยังเป็นอัตราเร่งเหมือนเดิม ศูนย์กลางการระบาดยังเหมือนเดิม คือ สหรัฐฯ และยุโรป (อิตาลี, สเปน, เยอรมัน, ฝรั่งเศส)/ มาตรการของสหรัฐ ระหว่างที่รอวัคซีน คือการ social distancing การปิดสถานที่ต่างๆ และตั้งรับรักษาพยาบาลผู้ป่วย/ นรม.ประกาศเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม ถึงตี 4 เริ่ม3 เม.ย.63

สถานการณ์ในประเทศ ผู้ป่วยเพิ่ม 104 ราย รวม 1,875 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวม 15 ราย/ ผู้ป่วยเพิ่มมากมาจาก กทม. และ จว.ภาคใต้เป็นหลัก พบใน กทม. 30 ราย ภูเก็ต 11 ราย สมุทรปราการ 9 ราย ยะลา 8 ราย เชียงใหม่ 4 ราย/ กทม.ติดจากผู้ป่วยเก่าเป็นหลัก ภูเก็ต ติดจากนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร ยะลา จากกิจกรรมทางศาสนาต่างประเทศ เชียงใหม่ จากสถานบันเทิง

ทั่วโลกมีผู้ติดทั้งหมด 935,189 ราย การติดต่อเป็นอัตราเร่ง เพิ่ม 2 เท่าทุกๆ 3 วัน แหล่งระบาดที่สำคัญ คือ สหรัฐฯ อิตาลี สเปน/ จีนส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปช่วยเหลือประเทศต่างๆ เช่น อิตาลี สหรัฐ รวมทั้งประเทศไทย/ อินเดียอาจมี Super spreader เร็วๆนี้ เพราะมีการชุมนุมของศาสนาในกรุงนิวเดลี รวมทั้งปชช.เดินทางออกสู่เมืองต่างๆ เป็นจำนวนมาก

ในประเทศการติดโรคเพิ่มขึ้น 120 ราย สะสม 1,771 ราย การติดต่อลดลงเล็กน้อย (เมื่อวานมีผู้ป่วยเพิ่ม 127 ราย) ตายเพิ่ม 2 ราย ตายสะสม 12 ราย/ นนทบุรี ประกาศเคอร์ฟิว 23:00 ถึง 05:00 น./ ถ้าเราเน้น Social distancing อย่างเข้มงวด จะทำให้การรักษาผู้ป่วยได้ผลดีขึ้น รวมถึงการรักษาอนามัยส่วนบุคคล และการสวมมาสก์

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานให้ใช้ศูนย์ฝึกอบรมฯ เป็นสถานที่ฟื้นฟูผู้ป่วยโควิด/ นรม.เพิ่มจำนวนผู้รับสิทธิ์ 5,000 บาท/ สหรัฐฯ และ ยุโรป (อิตาลีและสเปน) ยังเป็นศูนย์กลางการระบาด/ บริษัทในสหรัฐฯได้เปลี่ยนสายการผลิตมาผลิตหน้ากากและชุดใส่ป้องกันติดเชื้อสำหรับแพทย์และบุคคลากรที่ดูแลผู้ป่วย/ จีนและสหรัฐฯร่วมมือกันมากขึ้น ทำให้มีวี่แววว่าสงครามการค้าจะยุติลง

การระบาดใน 1 วันที่ผ่านมา มีผู้ป่วยใหม่ 127 ราย รวม 1,651 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเสียชีวิต10 ราย/ มีจังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยเลย 19 จังหวัด/ ในประเทศไทย กทม.ยังคงเป็นแหล่าระบาดที่เป็นศูนย์กลางของประเทศ ในต่างจังหวัดได้มี ตำรวจ ทหาร และ อสม.ที่ช่วยดูแลถึงตัวหรือครอบครัวผู้ที่เป็นโรค/ เป็นที่ทราบกันว่าบาง รพ.ยังมีอุปกรณ์ไม่พอเพียง พวกเราจึงต้องร่วมมือร่วมใจกันทุกคน

การระบาดทั่วโลก มีคนคิดเชื้อทั้งสิ้น 784,381 ราย ตาย 37,780 ราย ศูนย์กลางการระบาดจะอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและในยุโรป (อิตาลี และ สเปน)/ สหรัฐฯ กำลังดำเนินการทดสอบวัคซีนในมนุษย์ โดยบริษัท Johnson & Johnson และมีแผนการผลิตเป็นจำนวนมากๆ/ คนไทยในอิตาลีจะกลับประเทศไทยประมาณ 7,000 คน ซึ่งอิตาลีเป็นศูนย์กลางการระบาดของโลกในเวลานี้

สถานการณ์ในประเทศ มีผู้ป่วยใหม่ 136 ราย รวมสะสม 1,524 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เสียชีวิตสะสม 9 ราย และมีผู้ป่วยอยู่ รพ.1,388 ราย/ การติดต่อมีแนวโน้มคงที่ ขณะนี้การติดต่อใน กทม.มากกว่าต่างจังหวัด/ ในต่างจังหวัดได้มีความพร้อมที่จะดูแลผู้ป่วย รวมทั้งมีการป้องกันการแพร่กระจายเป็นอย่างดี

ต่างประเทศ สหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยมากที่สุด ถัดมาคือ อิตาลี จีน เสปน แต่การตายของผู้ป่วยจะมากที่ เสปน หรือ อิตาลี สลับกัน ในวันนี้สเปนมีมากกว่าอิตาลี สถานการณ์ในประเทศไทย ภูเก็ตได้ปิดเมืองไม่ให้คนเข้า-ออก ทางบกและทางน้ำ เพราะมีผู้ป่วยโควิด-19 เป็นจำนวนมาก นักโทษที่บุรีรัมย์ ได้ก่อความไม่สงบเมื่อทราบว่ามีนักโทษใหม่ติดโควิด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้