EP 43.สรุปสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันที่ 9 เมษายน (ภาคเช้า)

Last updated: 15 เม.ย 2563  |  622 จำนวนผู้เข้าชม  | 

EP 43.สรุปสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันที่ 9 เมษายน (ภาคเช้า)

EP 43.สรุปสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันที่ 9 เมษายน (ภาคเช้า)
โดย ทีมแพทย์มูลนิธิศิษย์นายร้อยฯ

 
  ในโลกวันนี้มีผู้ป่วยโรคนี้ทั้งหมด 1,509,678 ราย ตายไปแล้ว 88,334 ราย 
การแพร่กระจายยังเป็นอัตราเร่ง แต่มีสัญญาณที่จะถึงจุดสุดยอดแล้ว แหล่งระบาดมากๆอยู่ที่เดิม ที่สหรัฐฯ และ ยุโรป

   สหรัฐฯมีมากที่สุดเป็นอันดับ 1 มีผป.โรคนี้ 427,101 ราย เพิ่มขึ้นใน 1 วัน 26,766 ราย ตายเพิ่มใน 1 วัน 1,827 ราย เทียบกับประเทศในยุโรปแล้ว แต่ละประเทศในยุโรป ที่เป็น top 5 จะมีประมาณ 1 แสนราย ที่มากที่สุดในยุโรป ได้แก่ สเปน มี 148,220 ราย ประเทศอื่นๆในยุโรป มีประมาณประเทศละ 1แสนราย

อิตาลี มีการลดลงดี ลงมาน้อยดว่าสเปน ทั้งการเพิ่มขึ้นใน 1 วัน และ การตายใน 1 วัน

ในยุโรปยังมีปัญหาที่ อังกฤษ เบลเยี่ยม และ สเปน ซึ่งมีการตายและการติดเพิ่ม มากกว่าที่อื่นๆ โดยเฉพาะสเปนที่เป็นอันดับ 2 ในโลก รองจาก สหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

สหรัฐฯ ปธน.ทรั้มป์ อยากให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว โดยพยายามผ่อนคลายการหยุดงานอยู่กับบ้าน ให้มีเสรีภาพมากขึ้น จึงพยายามผ่อนคลายจากเมืองที่ไม่มีปัญหามากๆก่อน และค่อยๆกระจายไปยังที่อื่นๆ เมืองที่มีปัญหามาก เช่น นครนิวยอร์ค ดีทรอยด์ ยังคงมีมาตรการเข้มข้นอยู่ก่อน ทรั้มป์ ได้ประกาศยังไม่ส่งเงินไปสนับสนุน องค์การอนามัยโลก (WHO) เพราะเขากล่าวว่า WHO เข้าข้างจีน (China centric) และดำเนินการช้าทำให้สหรัฐฯมีการแพร่กระจายของโรค โควิด-19 นี้ ซึ่งเป็นปัญหาเป็นอย่างมาก ทรั้มป์ มีมาตรการที่จะให้มีการตรวจ ไวรัส ในประชาชนไห้มาก เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ เพื่อที่จะทราบคนที่ติดเชื้อได้ไว รวมทั้งจะทราบคนที่มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ จะได้ป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจาย มีวิธีการ ตรวจไวรัส จากบริษัท แอบบอท ที่สามารถตรวจได้เร็ว (เพียง 15 นาที ก็ทราบผล) จะนำมาใช้ ร่วมกับการให้บริษัทต่างๆมีการผลิตเครื่องมือที่ใช้ตรวจให้มากเพียงพอ และตรวจได้รวดเร็ว ที่จะตรวจประชาชน

อังกฤษ เมื่อวานมีคนตายมากขึ้น แต่มีแนวโน้มดีขึ้น จะมีการ lockdown ต่ออีก 1 เดือน

อิตาลี และ เยอรมัน สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ กำลังจะผ่อนคลายการ lockdown แต่ศูนย์ป้องกันโรคของยุโรป ขอให้ระวังอย่าผ่อนคลายเร็วเกินไป

ฮ่องกง มีเหตุการณ์คล้ายประเทศไทย ที่มีประชาชนกลับมาจากต่างประเทศ และนำโรค โควิด-19 มาด้วย จึงได้เพิ่มมาตรการ ให้เข้มข้นกว่าเดิม

ญี่ปุ่น ไม่เดย lockdown แต่ต้องนำมาตรการนี้มาใช้  โดยประกาศภาวะฉุกเฉิน และปิดสถานที่ต่างๆ ในหลายเมือง รวมทั้งกรุงโตเกียว เมือวานพบว่าคนที่กรุงโตเกียวลดลงกว่าครึ่ง

จีน เมื่อวานได้เปิดเมืองหวู่ฮั่น ประชาชน ร่วมแสดงความขอบคุณแพทย์ พยาบาล

ไทย มีข่าวในระดับโลก เรื่องที่ภูเก็ตมีการแพร่ระบาดของโรคนี้ ที่มีอัตราการเป็นโควิด-19 มากกว่ากรุงเทพฯ โดยเทียบกับประชากรในแต่ละจังหวัด ซึ่งนำมาจากการแถลงข่าว ของศูนย์โควิด ไทย

สหรัฐฯได้สนับสนุนให้ประชาชน สวมมาสก์ผ้า เมื่อออกไปในที่ชุมชน เพราะมีผลการทดลองแล้วว่าสามารถลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 นี้ได้ แต่ระวังอย่าไห้ประชาชนคิดว่าสวมมาสก์เพียงอย่างเดียวแล้วป้องกันได้ ต้องมีมาตรการอื่นๆด้วย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้